จักรยานที่สร้างโดยแชมป์โลก SCOTT SCALE
จักรยานที่สร้างโดยแชมป์โลก SCOTT SCALE
จุดเริ่มต้น รถจักรยานเสือภูเขา Hardtail สุดเบา ของ Scott
Scott Scale 2017 นั้นน้ำหนัก 849 กรัมซึ่งเราคิดว่าเป็นหนึ่ง
ในเฟรมที่เบาที่สุดในโลก
เพราะเราเชื่อว่าความสบายในการปั่นนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในจักรยานประเภท Hardtail ทำไมเราจะไม่มีจักรยานที่สามารถแข่งแล้วชนะและสามารถปั่นได้อย่างสบายในคราวเดียวกันไม่ได้? ซึ่งเราก็ได้เพิ่มการ integrated (พวกซ่อนสาย) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เทียบเคียงรถเสือหมอบ
Scott Scale
ชัยชนะของ Scott RC ใน World Cup, World Championship และแม้กระทั่ง Olympics
Nino Schurter ได้กล่าวว่า
จุดเริ่มต้นของเฟรมที่ดี เริ่มที่ วัสดุที่ดีที่สุด: Tensile strength คือความสามารถของคาร์บอนที่ทนต่อแรงกระทำได้แค่ไหนก่อนที่มันจะแตกหัก Stiff หรือ elastic modulus เป็นการวัดความยืดหยุ่นของคาร์บอน |
|
|
YS คาร์บอน เป็นชนิดที่ใช้เพื่อเพิ่มความ stiff ในบางส่วน
HR40 คาร์บอน เป็นตัวช่วยให้เฟรมสามารถทำความ stiff ได้สูงเมื่อเทียบกับน้ำหนัก
MR70 คาร์บอน ที่ใช้ในเฟรม HMX-SL และเป็นเกรดคาร์บอนที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และอากาศยาน ซึ่งมีความแข็งแรงและทนทานสูงมาก
การสร้างเฟรม HMX-SL ต้องใช้เรซิ่นชนิดพิเศษโดยมีละอองคาร์บอนแทรกอยู่ข้างใจซึ่งเทคโนโลยีนี้เองที่สร้างความแข็งแรงให้กับโครงสร้าง ด้วยเทคโลโนยีเหล่านี้เองทำให้
HMX-SL สามารถลดน้ำหนักลงได้ 19% หรือ 199 กรัม
ซึ่งเราภูมิใจที่จะประกาศว่า
ปัจจุบันน้ำหนัก 849 กรัม
สำหรับล้อ 27.5” และ 29” หรือมาตรฐานใหม่
ล่าสุดในอุตสาหกรรม
New lay up design
จากการเลือกวัตถุดิบที่เหมาะสม ในการสร้างเฟรมไปกว่า 80%
อีก 20% ที่เหลือเป็นส่วนที่เราต้องออกแรงเอง ทำให้การเลือกซอฟต์แวร์ มาช่วยในการผลิตและออกแบบเช่น FEA
ที่มีส่วนช่วยในเรื่องของการวางแนวผ้าคาร์บอน ซึ่งในซอฟต์แวร์ นี้สามารถทดสอบแรงกระทำต่างๆ
และปรับเปลี่ยนโครงสร้างในนั้นให้เหมาะสม
ด้วยเทคโนโลยี Evo-lap ทำให้เราสามารถเลือกขนาดพื้นผิวและโครงสร้างได้อย่างเหมาะสมและสามารถทดสอบส่วนต่างของเฟรมได้ ซึ่งด้วยเทคโนโลยีนี้เองทำให้ตัวต้นแบบของเราเป็นเฟรมที่เบา stiff และแข็งแรง
HMX เบาขึ้นอีก 82 กรัม และ
HMF เบาขึ้นอีก 166 กรัม
SDS2
มีผลต่อประสิทธิภาพในการปั่น ซึ่งด้วยเหตุผลนี้เองนักออกแบบจักรยานจึงพยายามวิเคราะห์ว่าส่วนใดบ้างของจักรยานที่ควรจะสร้างความสบายขึ้นมาได้โดยที่ไม่สูญเสียความ stiff ไป
ขณะที่ Scott ใช้ระบบ SDS2 ซึ่งเป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดและกรอบแนวคิดต่างๆ เพื่อให้ได้เฟรมที่ตอบสนองและตอบโจทย์ความสบายให้ได้ดีที่สุด เพื่อให้ถึงเป้าหมายนี้ Scott ได้ทำการออกแบบท่อเฟรมใหม่ทั้งหมด
Brake mount
บริเวณหางหลังเป็นบริเวณที่สำคัญมากในเรื่องของความสบายในการปั่น
เพื่อที่จะให้หางหลังทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจึงควรที่จะให้หางหลังทำหน้าที่แยกออกมา
จากอุปกรณ์อื่น ซึ่งการออกแบบที่ยึดจับเบรคแยกออกมานี้ทำให้โครงสร้างหลักของเฟรมเบาลงอีก
อีกทั้งทำให้หางหลังสามารถให้ตัวได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเราออกแบบมาให้มีตัวจับสองแบบด้วย
กันคือจาน 160 mm และ 180 mm
Grams saving - ลดน้ำหนักระดับกรัม
ความใส่ใจในรายละเอียดสำหรับ Scott Scale ทำให้เราเหนือกว่าแบรนด์อื่นๆในตลาด
แม้กระทั่งการทำสีเฟรมของ HMX-SL ยังมีการออกแบบใหม่เพื่อให้ลดน้ำหนักลง
ซึ่งเฟรมของเรายังคงพ่นสีและลวดลายเหมือนเดิมแต่น้ำหนักสีของเรานั้นเบากว่ามาตรฐานทั่วไปถึง 50%
Boost technology
เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดย SRAM ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบดุมล้อ
และชุดขับใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ได้ความ stiff ที่มากขึ้น Boost เป็นการขยายดุมล้อ
ให้กว้างขึ้นทั้งหน้าและหลัง ซึ่งม้ว่าจะกว้างขึ้นอีก 3 mm ก็ตามแต่ Q factor
ของโซ่ยังคงเดิม ที่ด้านหน้าจะขยายออกอีกข้างละ 5 mm เพื่อให้สามารถ
ใส่ยางที่ใหญ่ขึ้นได้ แต่สำหรับ Scott Scale เราได้พัฒนาไปไกลเกินกว่านั้น
โดยการปรับเปลี่ยนองศาเฟรมใหม่ทั้งหมดเพื่อให้สามารถใช้เทคโนโลยีนี้ได้อย่างเต็มที่
การเพิ่มขนาดกะโหลกอีก 3 mm เพื่อเพิ่มความ stiff ให้กับเฟรม ซึ่งด้วยเหตุผลนี้เอง
ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนองศาเฟรมให้เหมาะสมกับการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของล้อหลัง และ
เรายังทำให้ระยะหางหลังสั้นลง เพื่อที่จะให้เฟรมมีความคล่องตัวมากขึ้น
Drivetrain optimization
เมื่อชุดขับมีการพัฒนา เฟรมก็ย่อมต้องพัฒนาตามชุดขับเช่นกัน ด้วยแนวคิดนี้ Scott Scale
จึงได้ทำเฟรมออกมาสองแบบ แบบแรกจะเป็นเฟรมที่ทำมาเพื่อจานหน้าใบเดียวเท่านั้น
แบบที่สองจะเป็นเฟรมที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้จานหน้าสองใบ โดยทั้งสองเฟรมนี้จะมีองศาเฟรมที่ต่างกัน
แบบแรกที่ใช้จานใบเดียวจะเป็นเฟรมที่ดีไซน์มาเพื่อแข่งขัน จะมีในรุ่นเฟรมที่ใช้
คาร์บอน HMX และ HMX SL ส่วนเฟรม HMF จะเป็นเฟรมแบบจานสองใบ
แต่ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนมาใช้จานหน้าใบเดียวได้เช่นกัน
หัวใจหลักของเฟรมที่ดีไซน์เพื่อจานหน้าใบเดียวไม่ใช่เพียงแค่ว่าเอาที่ยึดสับจานออกแค่นั้น
แต่ยังออกแบบองศาหางหลังใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ตอบรับกับชุดขับ ซึ่งทำให้เฟรมมีความ stiff มากขึ้น
ICCR Cable routing
สวมเข้ากับเฟรม และยังสามารถเลือกระหว่างเกียร์แบบสายและแบบไฟฟ้าได้อีกด้วย